วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Context Clues

Context clues   (การเดาความหมายโดยใช้บริบท)


บริบท (Context clue) หมายถึง คำหรือข้อความที่อยู่แวดล้อมคำศัพท์ที่ไม่ทราบ ความหมายโดยตรงของคำนั้นหรืออาจใช้ข้อมูลบางอย่างที่ช่วยให้นักเรียนทราบ ความหมายคำศัพท์ได้ การเดาความหมายของคำศัพท์จากบริบท มีดังนี้
1.              เดาจากการนิยามศัพท์หรือบอกความหมาย โดยการดูที่ตัวชี้นำ (Clue) ที่มีใน ประโยค ดังนี้

A puppy is a baby dog.
ตัวชี้นำ คือ is
ข้อความหลังคำว่า is คือ นิยามหรือความหมายของคำว่า puppy
a baby dog คือ นิยามหรือความหมายของ puppy
สรุปว่า puppy คือ ลูกสุนัข

A motion picture is called a movie.
ตัวชี้นำ คือ is called
ข้อความหลังคำว่า means คือ นิยามหรือความหมายของคำว่า movie
a big boat คือ นิยามหรือความหมายของ movie
สรุปว่า movie คือ ภาพที่เคลื่อนไหว หรือภาพยนตร์นั่นเอง

2.            เดาจากการแสดงความขัดแย้ง โดยจะมีคำที่ให้ความหมายตรงข้ามกับคำที่เรา ไม่ทราบความหมายซึ่งอาจจะอยู่ในประโยคเดียวกันหรือถัดมา ตัวชี้นำ (Clue) นั้นคือ
but แต่
ตัวอย่างประโยคเช่น   My father is very busy, but my mother is free.
คำศัพท์ที่ไม่ทราบความหมาย คือ busy
ตัวชี้นำ คือ but
คำที่บอกความหมายตรงข้าม free
free มีความหมายว่า ว่าง
busy มีความหมายว่า ไม่ว่าง หรือยุ่ง
ดังนั้น My father is very busy, but my mother is free.   คือ พ่อของฉันยุ่งมากแต่แม่ของฉันว่าง

3.             เดาจากการกล่าวซ้ำ โดยใช้ภาษาง่าย ๆ โดยกล่าวซ้ำภายในประโยคเดียวกันแต่ใช้ ถ้อยคำที่ต่างกัน

ซึ่งตัวชี้นำ (Clue) ความหมาย คือ   Or หรือ
ตัวอย่างประโยคเช่น          Judy feeds, or gives food to her pigs very day.
คำศัพท์ที่ไม่ทราบความหมาย คือ feed
ตัวชี้นำ คือ or
กล่าวซ้ำความหมายด้วย gives food
gives food หมายความว่า ให้อาหาร
ดังนั้น feed มีหมายความว่า ให้อาหาร

4.             เดาจากการใช้ตัวอย่าง โดยการให้ตัวอย่างเป็นข้อมูลช่วยในการวิเคราะห์ ความหมายคำศัพท์          
            ซึ่งตัวชี้นำ (Clue) ความหมาย คือ
such as เช่น
for example 
ตัวอย่างประโยคเช่น  Students study many subjects; for example, Math, Science, Art and English.
คำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย คือ subject
ตัวชี้นำ คือ for example
ตัวอย่างที่ให้มา คือ Math, Science, Art and English.
ตัวอย่างที่ยกมา คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ และภาษาอังกฤษ
ดังนั้นสรุปได้ว่า subject คือ วิชา

5.  เดาจากการแสดงความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ถ้าคำศัพท์ที่ไม่ทราบความหมายอยู่ใน ส่วนที่เป็นเหตุให้พิจารณาที่ข้อความที่เป็นผล และถ้าคำศัพท์อยู่ในส่วนที่เป็นผล ให้พิจารณาข้อความที่เป็นเหตุ            ตัวชี้นำ (Clue) ความหมายคือ
so ดังนั้น
because เพราะว่า

ตัวอย่างประโยคเช่น He wants to buy some medicine so he go to the drugstore.
คำที่ไม่รู้ความหมาย คือ drugstore ในประโยคผล
ตัวชี้นำ so
พิจารณาข้อความในประโยคเหตุ He wants to buy some medicine
ได้ความว่า เขาต้องการซื้อยา
     สรุปว่า drugstore หมายถึง ร้ายขายยา เพราะสถานที่สามารถซื้อยาคือร้านขายยา

6.            เดาจากประโยคที่กล่าวมาก่อนหรือตามหลัง
ตัวอย่างประโยคเช่น          Lisa’s brother is lazy.
ถ้านักเรียนไม่ทราบความหมายของคำว่า lazy นักเรียนเดาความหมายไม่ได้แต่ ถ้ามีประโยคเพิ่มขึ้นว่า Lisa’s brother is lazy. He doesn’t work. He likes to sit, watches TV and sleep.
ข้อความหลังคำศัพท์ lazy อธิบายว่าน้องลิซ่าไม่ชอบทำงานชอบนั่งเฉยๆ ดูทีวี และนอนหลับ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ทำให้ทราบว่า lazy คือ ขี้เกียจ

7.             เดาโดยอาศัยคำแสดงความหมายเหมือน(Synonym) คำที่มีความหมายเหมือนกับ คำศัพท์ที่อยู่ในประโยคนั้น ๆ

ตัวชี้นำ (Clue) ที่ให้ความหมายเช่น
too ด้วยเหมือนกัน
also แล้วก็
and และ
ตัวอย่างประโยคเช่น   That boy was poor, and that girl was not have money too.
คำที่ไม่รู้ความหมาย poor
ตัวชี้นำ and that girl was not have money too.
พิจารณาจากประโยคว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่มีเงินเหมือนกัน
ได้ความว่า ผู้ชายคนนั้นไม่มีเงิน
สรุปว่า poor มีความหมายว่า ไม่มีเงินหรือจนนั่นเอง

8.             เดาโดยอาศัยคำตรงข้าม (Antonym) กล่าวคือ บริบทประเภทนี้จะมีคำชี้แนะ (Clue)
but
rather than
in contrast
nevertheless
however
ตัวอย่างประโยคเช่น   The policeman caught two suspects , but they released them two hours later.
คำที่ไม่รู้ความหมาย caught
ตัวชี้นำ but they released them two hours later.
พิจารณาจากประโยคว่า แต่ถูกปล่อยตัวไปเมื่อ 2 ชั่วโมงต่อมา
ได้ความได้ว่า มีการกระทำที่ตรงข้ามกับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
สรุปว่า caught มีความหมายตรงข้ามกัน นั่นคือแปลว่า ถูกจับ

ที่มา  http://www.sa.ac.th/multimedia/autsanee/exercise1.pdf

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Currency Exchange

Currency Exchange
สกุลเงินของแต่ละประเทศ
1.   Baht          ประเทศ     Thailand
2.   Pound      ประเทศ     England, Egypt,Iceland,Syria,Sudan
3.   Ringit       ประเทศ     Malaysia
4.   Rupiah    ประเทศ      Indonesia 
5.   Yuan     ประเทศ     China
6.   Euro      ประเทศ     Austria
7.   Rupee    ประเทศ     India,Sri Lanka
8.    Peso     ประเทศ     Philippines,Chile,Argentina,Cuba,Dominican Republic
9.    Yen      ประเทศ     Japan
10.  Won     ประเทศ     Korea

เพิ่มเติม 

11.    ngultrum     ประเทศ Bhutan
12.    dram          ประเทศ Armenia
13.    kuna           ประเทศ Croatia
14.    kip              ประเทศ Laos
15.    dong          ประเทศ Vietnam
16.    franc          ประเทศ Djibouti
17.    ruble          ประเทศ  Russia

ที่มา :  http://currencies-of-all-countries.blogspot.com/
 

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ส่ง URL คะ

ชื่อ นางสาว ชมพู่  คงนาคพะเนา คณะบริหารธุรกิจ(เทียบโอน)
รหัส 53120122  กลุ่มเรียนเช้าวันศุกร์

http://chompoo120122.blogspot.com/